Microsoft Dynamics 365 คืออะไร?

Dynamics 365

Table of Contents

 

ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน หลายองค์กรพยายามตามหาเครื่องไม้ เครื่องมือ ที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด ขั้นตอนเหล่านี้อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นการลดต้นทุนที่จะเสียเปล่าไปได้เช่นเดียวกัน การมีเครื่องมือที่สามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและลดความซับซ้อนได้เป็นสิ่งสำคัญ Microsoft Dynamics 365 คือหนึ่งในเครื่องมือที่ตอบโจทย์นี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยชุดฟังก์ชั่นที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของธุรกิจ ทำให้องค์กรสามารถรวมศูนย์การจัดการทุกฟังก์ชันธุรกิจไว้ในที่เดียว เพิ่มความคล่องตัวและลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเราจะพาไปรู้จักว่าเจ้าสิ่งนี้คืออะไรกัน

Microsoft Dynamics 365 คืออะไร

เป็นชุดซอฟต์แวร์ที่รวมทั้งระบบการจัดการทรัพยากรองค์กร (ERP) และระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถจัดการกระบวนการทางธุรกิจต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในด้านการเงิน การขาย การตลาด การบริการลูกค้า การปฏิบัติการ และการบริหารทรัพยากรบุคคล

คุณสมบัติหลักของ Dynamics 365

การรวมกันของ ERP และ CRM

รวมฟังก์ชันการทำงานของ ERP และ CRM ไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ทำให้การจัดการข้อมูลและกระบวนการทำงานมีความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น

การทำงานบนคลาวด์

รองรับการทำงานบนคลาวด์ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงระบบได้ทุกที่ทุกเวลา มีการอัปเดตและการบำรุงรักษาอัตโนมัติ

ความยืดหยุ่นและการปรับแต่ง

สามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของแต่ละธุรกิจได้ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มโมดูลหรือการปรับแต่งฟังก์ชันการทำงาน

การวิเคราะห์และรายงาน

มีเครื่องมือวิเคราะห์และการสร้างรายงานที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้บริหารสามารถติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจได้อย่างแม่นยำ

การเชื่อมต่อกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Microsoft

สามารถเชื่อมต่อและทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Microsoft เช่น Office 365 และ Power BI รวมไปถึง Azure ได้อย่างราบรื่น

ประวัติของ Dynamics 365

ต้องย้อนกลับไปช่วยปี 1990 Microsoft ได้เริ่มเข้าสู่ตลาด ERP และ CRM ด้วยการเข้าซื้อกิจการซอฟต์แวร์การจัดการธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางอย่าง Great Plains และ Navision การเข้าซื้อนี้ไม่ใช่เพียงแค่การเพิ่มสินค้าในพอร์ตโฟลิโอของบริษัท แต่ยังเป็นการวางรากฐานสำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์ในอนาคต Great Plains ถูกพัฒนาเป็น Dynamics GP ส่วน Navision ถูกพัฒนาเป็น Dynamics NAV ซึ่งทั้งสองกลายเป็นเสาหลักในชุดซอฟต์แวร์ Dynamics ของ Microsoft

หลังจากนั้นเมื่อเข้าปี 2000 Microsoft ยังคงเดินหน้าขยายตลาดด้วยการเข้าซื้อ Axapta และ Solomon ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ ERP ที่เน้นกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ Axapta ถูกพัฒนาเป็น Dynamics AX ในขณะที่ Solomon กลายเป็น Dynamics SL ไม่เพียงแค่นั้น Microsoft ยังได้พัฒนา Dynamics CRM ขึ้นมา เพื่อเป็นโซลูชันการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพสูง

เมื่อเข้าสู่ช่วยปี 2010 Microsoft ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง โดยการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ และการรวมการทำงานกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Microsoft เช่น Office 365 และ Power BI จนกระทั่งปี 2016 Microsoft ได้เปิดตัว Dynamics 365 ซึ่งเป็นการรวมฟังก์ชันการทำงานของ Dynamics AX และ Dynamics CRM ไว้ในแพลตฟอร์มเดียว พร้อมกับการเพิ่มโมดูลใหม่ ๆ ที่ช่วยให้การจัดการธุรกิจมีความครบวงจรมากขึ้น

ในปี 2016 การเปิดตัว Dynamics 365 เป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ โดย Microsoft ได้รวมฟังก์ชันการทำงานของ Dynamics AX (ERP) และ Dynamics CRM ไว้ในแพลตฟอร์มเดียว พร้อมกับการแนะนำโมดูลใหม่ ต่อมาในปี 2018 Microsoft ได้เปิดตัว Dynamics 365 Business Central ซึ่งเป็นโซลูชัน ERP สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่ต้องการระบบการจัดการที่ครอบคลุมและง่ายต่อการใช้งาน

ปัจจุบันยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ และการรวมการทำงานกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Microsoft เช่น Azure Power Platform (Power BI Power Apps Power Automate) และรวมไปถึงการนำ AI เข้ามามีส่วนร่วม เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัวและเติบโตในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ Dynamics 365 ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการกระบวนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกด้านของธุรกิจ ตั้งแต่การเงิน การขาย การตลาด การบริการลูกค้า ไปจนถึงการปฏิบัติการและการบริหารทรัพยากรบุคคล

Dynamics 365 สามารถทำอะไรได้บ้าง

หากพูดถึงขีดความสามารถของผลิตภัณฑ์นี้ ต้องบอกเลยว่ามีหลากหลาย และทั้งหมดครอบคลุมการใช้งานที่องค์กรคุณต้องการอย่างไม่ต้องสงสัย แต่จะมีอะไรบ้าง ไปชมพร้อมๆ กันได้เลย

Finance & Operations

ช่วยในการจัดการการเงินและการดำเนินงานขององค์กร รวมถึงการบัญชี การงบประมาณ การรายงานทางการเงิน การควบคุมสินทรัพย์ และการจัดการงบประมาณ ช่วยให้การเงินมีความโปร่งใสและสามารถติดตามได้ง่าย

Sales

ช่วยในการบริหารจัดการกระบวนการขาย ตั้งแต่การสร้างโอกาสทางการขาย การติดตามลูกค้า การปิดการขาย และการติดตามหลังการขาย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของทีมขายและเพิ่มอัตราการปิดการขาย

Marketing

ช่วยในการวางแผนและดำเนินการด้านการตลาด รวมถึงการจัดการแคมเปญ การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า การส่งข้อความที่เหมาะสมไปยังลูกค้าตามกลุ่มเป้าหมาย และการวัดผลของกิจกรรมทางการตลาด

Customer Service

ช่วยในการให้บริการลูกค้าและการจัดการเคส ช่วยให้ทีมบริการสามารถตอบสนองคำถามและปัญหาของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า

Human Resources

ช่วยในการจัดการทรัพยากรบุคคล ตั้งแต่การสรรหาและคัดเลือกพนักงาน การฝึกอบรมและพัฒนาทักษะ การประเมินผลการทำงาน และการจัดการเงินเดือนและสวัสดิการ

Supply Chain Management

ช่วยในการจัดการห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การวางแผนการผลิต การจัดซื้อ การจัดเก็บและการขนส่งสินค้า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการห่วงโซ่อุปทานและลดต้นทุนการดำเนินงาน

Business Central

เป็นระบบการจัดการธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง ช่วยในการจัดการการเงิน การขาย การบริการลูกค้า และการดำเนินงานอื่น ๆ ให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจ

Field Service

ช่วยในการจัดการงานบริการภาคสนาม ตั้งแต่การนัดหมายงาน การส่งช่างไปยังสถานที่ลูกค้า การติดตามงาน และการรายงานผล ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการและลดเวลาการตอบสนอง

Commerce

ช่วยในการจัดการการค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ ช่วยในการบริหารจัดการร้านค้า การขายสินค้าออนไลน์ การจัดการคลังสินค้า และการวิเคราะห์ข้อมูลการขาย

Project Automation

ช่วยในการจัดการและการดำเนินงานของโครงการ ตั้งแต่การวางแผนโครงการ การจัดสรรทรัพยากร การติดตามความก้าวหน้า และการรายงานผล ช่วยเพิ่มความโปร่งใสและความสามารถในการจัดการโครงการ

 

ฟีเจอร์สำคัญของ Dynamics 365

 

Customer Insights
ภาพตัวอย่างจาก microsoft.com

 

Customer Insights

Customer Insights เป็นหนึ่งในโซลูชันที่ Microsoft พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการในการเข้าใจและจัดการข้อมูลลูกค้าอย่างลึกซึ้งและมีประสิทธิภาพ โซลูชันนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยองค์กรรวบรวมข้อมูลลูกค้าจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ผสมผสานข้อมูลเหล่านี้เพื่อสร้างภาพรวมที่ครบถ้วนและเข้าใจได้ง่ายของลูกค้า ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างโปรไฟล์ลูกค้าที่ละเอียดและแม่นยำได้ ซึ่งทำให้การทำการตลาด การขาย และการบริการลูกค้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการนำข้อมูลจากหลายแหล่งมารวมกัน เช่น ข้อมูลการซื้อสินค้า ข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ ข้อมูลการติดต่อผ่านโซเชียลมีเดีย และข้อมูลการบริการลูกค้า สามารถนำมาประมวลผลและวิเคราะห์เพื่อหาแนวโน้มและพฤติกรรมของลูกค้าได้ หนึ่งในฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ Customer Insights คือการใช้ AI และ Machine Learning เพื่อทำการวิเคราะห์และคาดการณ์พฤติกรรมของลูกค้า องค์กรสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาสร้างแคมเปญการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด และสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า ไม่เพียงแค่ช่วยให้องค์กรเข้าใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ ลดค่าใช้จ่ายในการทำการตลาด และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการลูกค้า ทำให้องค์กรสามารถเติบโตและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้ในระยะยาว

 

Sales Insights
ภาพตัวอย่างจาก microsoft.com

 

 

Sales Insights

Sales Insights ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อเสริมประสิทธิภาพการขายขององค์กร ด้วยการนำเทคโนโลยี AI ใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ข้อมูลมาเพื่อช่วยให้ทีมขายสามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น หนึ่งในฟีเจอร์ที่โดดเด่น คือการให้คำแนะนำอัจฉริยะ (AI-driven insights) ที่ช่วยให้ทีมขายสามารถระบุโอกาสทางธุรกิจที่มีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น โดยการวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เช่น ข้อมูลการติดต่อกับลูกค้า ประวัติการซื้อขาย และข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย และยังสามารถช่วยระบุโอกาสที่มีค่าสูงสุดและช่วยให้ทีมขายสามารถให้ความสำคัญกับการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า ซึ่งช่วยให้ทีมขายเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น ทำให้สามารถปรับการสื่อสารและการทำแคมเปญการขายให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ ฟีเจอร์การพยากรณ์การขาย (Predictive forecasting) ช่วยให้ทีมขายสามารถคาดการณ์ยอดขายในอนาคตได้อย่างแม่นยำมากขึ้น โดยการใช้ AI และ Machine Learning ในการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่ เพื่อให้ทีมขายสามารถวางแผนกลยุทธ์และจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทีมขายสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดเวลาในการทำงานที่ไม่เกิดประโยชน์ และเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้องค์กรสามารถเติบโตและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้ในระยะยาว

Email Integration

ช่วยให้องค์กรสามารถเชื่อมต่อและจัดการอีเมลอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการรวมฟังก์ชันการทำงานของอีเมลเข้ากับแพลตฟอร์มหลัก ทำให้ทีมงานสามารถจัดการการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ หนึ่งในฟีเจอร์หลักคือการเชื่อมต่อกับ Outlook ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการอีเมลได้โดยตรงจากแพลตฟอร์ม โดยไม่ต้องสลับไปมาระหว่างแอปพลิเคชัน การรวมนี้ช่วยให้การทำงานสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ทำให้ผู้ใช้สามารถตอบสนองต่อการติดต่อของลูกค้าได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกการสนทนาและกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้ข้อมูลของลูกค้ามีความครบถ้วนและเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ ฟีเจอร์นี้ยังมีการติดตามและวิเคราะห์การติดต่อทางอีเมล ซึ่งช่วยให้ทีมงานสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพของการติดต่อกับลูกค้าได้อย่างละเอียด ผู้ใช้สามารถดูสถิติต่าง ๆ เช่น อัตราการเปิดอ่านอีเมล การคลิกลิงก์ และการตอบกลับ ทำให้สามารถปรับปรุงการสื่อสารและการทำแคมเปญอีเมลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือการสร้างและจัดการแคมเปญอีเมล ผู้ใช้สามารถสร้างอีเมลที่มีความเป็นมืออาชีพ ด้วยเทมเพลตที่กำหนดเองและการกำหนดเป้าหมายที่แม่นยำ ทำให้สามารถสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าที่ตรงเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเชื่อมต่ออีเมลนี้ช่วยให้องค์กรสามารถปรับปรุงการสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดเวลาในการจัดการอีเมล และเพิ่มความสามารถในการติดตามและวิเคราะห์การติดต่อทางอีเมล ทำให้สามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้อย่างแม่นยำและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้ในระยะยาว

LinkedIn Connections

การเชื่อมต่อกับ LinkedIn ในระบบของ Microsoft ช่วยให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลและเครือข่ายทางธุรกิจของ LinkedIn เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟีเจอร์หนึ่งที่โดดเด่นคือการรวมข้อมูลโปรไฟล์ของ LinkedIn เข้ากับระบบการจัดการลูกค้า ทำให้ทีมงานสามารถเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ข้อมูลเช่น ตำแหน่งงาน ปัจจุบัน ประสบการณ์ที่ผ่านมา และการเชื่อมต่อทางธุรกิจ สามารถนำมาใช้ในการปรับปรุงกลยุทธ์การขายและการตลาดให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น การเชื่อมต่อกับ LinkedIn ยังช่วยให้ทีมงานสามารถขยายเครือข่ายทางธุรกิจได้ง่ายขึ้น ด้วยการแนะนำการเชื่อมต่อใหม่ ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจขององค์กร การเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจใหม่ ๆ และสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงกับลูกค้า ฟีเจอร์นี้ยังช่วยให้ทีมขายสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับลูกค้าจาก LinkedIn เช่น ความสนใจและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถใช้ในการปรับปรุงการนำเสนอและการสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ การผสาน LinkedIn กับระบบนี้ยังช่วยให้การสรรหาบุคลากรมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถค้นหาและติดต่อผู้สมัครที่มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการขององค์กรได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังช่วยให้ทีมงานสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของผู้สมัครและการเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงานได้อย่างใกล้ชิด ด้วยการเชื่อมต่อกับ LinkedIn องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีคุณค่าในการพัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจ เพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจใหม่ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับลูกค้า ทำให้องค์กรสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน

 

Smart Search
ภาพตัวอย่างจาก microsoft.com

 

Smart Search

Smart Search เป็นฟีเจอร์หนึ่งในระบบ Microsoft ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ฟีเจอร์นี้ใช้เทคโนโลยี AI และ Machine Learning ในการวิเคราะห์และทำความเข้าใจข้อมูล ทำให้การค้นหามีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ด้วย Smart Search ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ในระบบได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลลูกค้า ข้อมูลการขาย เอกสารทางธุรกิจ หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการทำงาน การค้นหาสามารถทำได้ทั้งแบบข้อความและเสียง ทำให้การใช้งานสะดวกและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว หนึ่งในจุดเด่นของ Smart Search คือความสามารถในการค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง โดยการทำความเข้าใจบริบทและความสัมพันธ์ของข้อมูลต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น เมื่อผู้ใช้ค้นหาชื่อของลูกค้า ระบบจะนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น ประวัติการติดต่อ รายงานการขาย และข้อมูลโปรไฟล์ของลูกค้า ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ครบถ้วนได้ในครั้งเดียว  ทำให้องค์กรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหาข้อมูล ลดเวลาในการค้นหา และเพิ่มความสามารถในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้อย่างแม่นยำ ฟีเจอร์นี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานโดยรวม ทำให้องค์กรสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จได้ในระยะยาว

 

Marketing Automation
ภาพจาก Microsoft Mechanics Channel

 

Marketing Automation

ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการและดำเนินการแคมเปญการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบ ฟีเจอร์นี้ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้การทำงานของทีมการตลาดเป็นไปอย่างราบรื่นและมีผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ฟีเจอร์หนึ่งที่โดดเด่นของ Marketing Automation คือการสร้างและจัดการแคมเปญการตลาดอัตโนมัติ ผู้ใช้สามารถสร้างแคมเปญที่มีความซับซ้อนได้ง่าย ๆ ด้วยเครื่องมือการลากและวาง ทำให้สามารถกำหนดขั้นตอนการทำงานต่าง ๆ ได้อย่างยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็นการส่งอีเมล การโพสต์บนโซเชียลมีเดีย หรือการทำการตลาดผ่านช่องทางอื่น ๆ Marketing Automation ยังมีฟีเจอร์ในการติดตามและวิเคราะห์ผลลัพธ์ของแคมเปญ ทำให้ทีมการตลาดสามารถดูข้อมูลสถิติต่าง ๆ เช่น อัตราการเปิดอ่านอีเมล อัตราการคลิกลิงก์ และอัตราการแปลงเป็นลูกค้า ทำให้สามารถปรับปรุงแคมเปญได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การรวมข้อมูลลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ เป็นอีกฟีเจอร์ที่สำคัญ Marketing Automation สามารถนำข้อมูลจากระบบการจัดการลูกค้า (CRM) ข้อมูลการขาย และข้อมูลจากช่องทางการตลาดต่าง ๆ มารวมกันเพื่อสร้างโปรไฟล์ลูกค้าที่ครบถ้วนและแม่นยำ ทำให้การทำการตลาดมีเป้าหมายและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ฟีเจอร์การแบ่งกลุ่มลูกค้า (Customer Segmentation) ช่วยให้ทีมการตลาดสามารถแยกลูกค้าออกเป็นกลุ่ม ๆ ตามลักษณะและพฤติกรรมต่าง ๆ เช่น ประวัติการซื้อ ความสนใจ หรือการตอบสนองต่อแคมเปญ ทำให้สามารถสร้างเนื้อหาที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของแต่ละกลุ่มลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บริษัทที่ใช้ Microsoft Dynamics 365

 

2

 

Mercedes-Benz

Mercedes-Benz ได้นำเทคโนโลยี Dynamics 365 Remote Assist และ HoloLens 2 มาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสนับสนุนการทำงานของช่างเทคนิค เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้ช่างสามารถเชื่อมต่อกับผู้เชี่ยวชาญจากระยะไกลได้แบบเรียลไทม์ผ่าน HoloLens 2 อุปกรณ์นี้เป็นแว่นตาเสมือนจริงที่ช่วยให้ผู้ใช้เห็นและโต้ตอบกับข้อมูลดิจิทัลในสภาพแวดล้อมจริง

การปรับปรุงการสนับสนุนช่างเทคนิคของ ด้วย Dynamics 365 และ HoloLens 2

HoloLens 2 ช่วยให้ช่างสามารถมองเห็นข้อมูลการซ่อมบำรุงแบบเรียลไทม์ พร้อมทั้งสามารถสื่อสารกับผู้เชี่ยวชาญจากที่อื่นผ่าน Remote Assist ผู้เชี่ยวชาญสามารถเห็นสิ่งที่ช่างเห็นและให้คำแนะนำได้โดยตรง การเชื่อมต่อนี้ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้เร็วขึ้น ลดเวลาที่ใช้ในการซ่อมบำรุง และเพิ่มความแม่นยำในการทำงาน

ผลประโยชน์ที่ได้รับ

  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ช่างสามารถรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญได้ทันที ทำให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ลดเวลาในการซ่อมบำรุง การเชื่อมต่อแบบเรียลไทม์ช่วยให้สามารถวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว ลดเวลาที่ต้องใช้ในการซ่อมบำรุง
  • เพิ่มความแม่นยำในการทำงาน ข้อมูลที่ได้รับแบบเรียลไทม์ช่วยให้ช่างสามารถทำงานได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ลดความเสี่ยงในการทำผิดพลาด

 

 

 

Coca-Cola

หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จัก และเคยเป็นลูกค้ามาก่อน ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่นำ Solution นี้ไปพัฒนาต่อยอดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อย่างไม่ต้องสงสัย

การเปลี่ยนแปลงธุรกิจระดับโลกของ Coca-Cola ด้วย Dynamics 365

บริษัท Coca-Cola ได้ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Microsoft ภายใต้ข้อตกลง 5 ปี ในวันที่ 27 เมษายน 2020 โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงการดำเนินธุรกิจและสร้างประสบการณ์ดิจิทัลใหม่ ๆ ที่ทันสมัยและเชื่อมต่อกับพนักงานและลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยที่ Coca-Cola จะใช้ Microsoft Azure รวมไปถึง Dynamics 365 และ Microsoft 365 เพื่อสร้างมุมมองแบบ 360 องศา รอบด้านของธุรกิจ ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มประสบการณ์ที่ดีทั้งกับลูกค้าและพนักงาน การใช้เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยให้พนักงานสามารถเข้าถึงข้อมูลและการสนับสนุนได้อย่างรวดเร็ว ผ่านแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงกัน

การพัฒนาประสบการณ์พนักงานและลูกค้า

เทคโนโลยีดังกล่าว ช่วยให้ Coca-Cola สามารถติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง ฟีเจอร์ AI และแดชบอร์ดแบบเรียลไทม์จะช่วยให้ผู้จัดการศูนย์บริการสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพและความพึงพอใจของพนักงานได้ทันที อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงนวัตกรรมล่าสุดของ Dynamics 365 ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ

การเสริมสร้างการทำงานร่วมกัน

Coca-Cola ได้เริ่มใช้งาน Microsoft 365 และ Microsoft Teams ทั่วโลก เพื่อเสริมสร้างการทำงานร่วมกันของพนักงานผ่านการแชท การโทร การประชุม และการจัดการเอกสาร การใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยสนับสนุนการทำงานระยะไกลที่เพิ่มขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 และสามารถจัดประชุมภายในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้จะช่วยให้ Coca-Cola สามารถปรับปรุงกระบวนการดำเนินธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น นับเป็นก้าวสำคัญในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจระดับโลก

คำถามที่พบบ่อย

ความแตกต่างระหว่างรุ่น Enterprise และ Business Edition คืออะไร?

Enterprise Edition เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีความต้องการในการดำเนินธุรกิจที่ซับซ้อน ส่วน Business Edition เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่ต้องการความยืดหยุ่นและการปรับตัวที่รวดเร็ว

การใช้งาน ในคลาวด์ดีกว่าการใช้งานแบบ On-Premise อย่างไร?

การใช้งานในคลาวด์ช่วยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา มีการอัปเดตและบำรุงรักษาอัตโนมัติ ลดต้นทุนการจัดการและการบำรุงรักษาเซิร์ฟเวอร์ภายในองค์กร

ฉันสามารถปรับแต่ง ให้เหมาะสมกับธุรกิจของฉันได้หรือไม่?

ได้ โดยสามารถปรับแต่งและขยายระบบตามความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของธุรกิจได้ ช่วยให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การฝึกอบรมการใช้งาน มีอะไรบ้าง?

การฝึกอบรมการใช้งาน ครอบคลุมทั้งการใช้งานเบื้องต้นและการใช้งานขั้นสูง รวมถึงการฝึกอบรมการปรับแต่งและการขยายระบบตามความต้องการของธุรกิจ

สรุป

Microsoft Dynamics 365 เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการทำงานขององค์กร ด้วยฟีเจอร์ที่หลากหลายและการปรับแต่งที่ยืดหยุ่น ทำให้เหมาะสมกับทุกขนาดของธุรกิจ การใช้งานที่ง่ายและการรวมเข้ากับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Microsoft ทำให้ Dynamics 365 เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับองค์กรที่ต้องการความสำเร็จในยุคดิจิทัล รับคำปรึกษาและบริการที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณหากสนใจ ติดต่อเรา

 

 

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *